ในความคิดเห็นส่วนตัวของผมกับนักเตะเลือดอุรุกวัยคนนี้นั้น ตอนแรกที่เขามาสู่ลิเวอร์พูลใหม่ๆในช่วงปี2011นั้น เขายังโชว์ฝีเท้าออกมาไม่โดดเด่นนัก(ถ้าเทียบกับตอนนี้และแน่นอนตอร์เรสศูนย์หน้าคนก่อนเขา) แต่ต้องยอมรับว่าการมาของเขาทำให้ลิเวอร์พูลกระโดดจากอันดับ12แล้วไปจบอันดับ6ตอนจบฤดูกาลได้อย่างไม่น่าเชื่อ
สมัยอยู่สโมสร นาซิอองนาล
หลุยส์ ซัวเรส เป็นนักเตะที่เพียบพร้อมหากจะเทียบกับศูนย์หน้าคนก่อนอย่าง เอลนินโญ่ เฟร์นานโด ตอร์เรส ศูนย์หน้าหน้าคมของสเปน ซัวเรสถูกเคนนี่ ดัลกริชดึงตัวเข้ามาเล่นในสมัยที่เป็นโค้ชคุมลิเวอร์พูลช่วงนั้น โดยซื้อตัวมาระหว่างที่ถูกโทษแบนในลีกฮอลแลนด์จากกรณีไปกัดไหล่ของผู้เล่นคนหนึ่งในระหว่างการแข่งขัน และให้สวมเสื้อเบอร์7(คนก่อนเขาคือHarry Kewellซึ่งย้ายสโมสรไปแล้ว)เหมือนกับเขา ซึ่งเคยสวมใส่มันล่าตาข่ายมาก่อน
ที่บอกว่าเพียบพร้อมนั้น ไม่ใช่หน้าตา หมายถึงฝีเท้า แน่นอนว่า เฟร์นานโด ตอร์เรสกับหลุยส์ ซัวเรสนั้นฝีเท้าไม่ต่างกันมากนัก ไม่ว่าจะเป็นจังหวะการลากเลื้อย หลบหลีกผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามได้เก่งไม่แพ้กัน จังหวะการจบสกอร์ก็มีความคมไม่แพ้กัน
แต่ซัวเรสสิ่งหนึ่งที่ต่างไปจากตอร์เรสอย่างเห็นได้ชัด คือ วิธีการเข้าทำและจบสกอร์
หลุยส์ ซัวเรสดาวยิงอุรุกวัยคนนี้มีวิธีการส่วนตัวของเขาในการเข้าทำสกอร์ที่หลากหลายกว่า แม้บางครั้งจะเหมือนเขาเล่นตุกติก เล่นผิดกติกาบ้าง สิ่งนี้แน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องดีนักสำหรับวิชาชีพฟุตบอลเลย แต่ถ้าหากพูดถึงเฉพาะวิธีการเข้าทำสกอร์ที่ชาญฉลาดของเขา ที่สะอาดละก็ พูดได้เต็มปากเลยว่า เขาดีกว่าตอร์เรส
เขาทำประตูจากลูกโหม่งได้ดีไม่แพ้เท้า เขาปั่นฟรีคิกเข้าไปได้ไม่รู้กี่ลูกต่อกี่ลูกชนิดหลังๆจอมปั่นฟรีคิกอย่างกัปตันเจอราดยังอาย!!!
นอกจากนี้ ระยะหลังๆ ซัวเรสยังไม่ค่อยหวงบอลนัก จังหวะที่ต้องลงไปช่วยกองหลังเขาก็ไป จังหวะที่ต้องพาสลูกไปให้เพื่อนคนอื่นทำสกอร์ เขาก็สามารถทำได้ การันตีด้วยเจ้าของสถิติแอสซิสต์สูงสุดในฤดูกาลที่แล้ว
แต่เหมือนมีกรรม แม้ตอร์เรส ศูนย์หน้าคนก่อนไม่มีลักษณะการจบสกอร์ดีแบบที่ซัวเรสเป็นในตอนนี้ แต่ตอร์เรสก็ไมมีจังหวะการเล่นที่ไม่สะอาดเหมือนกับซัวเรส(อย่างดีก็แค่พุ่งล้มนิดๆหน่อยๆเท่านั้น) ซัวเรสมีทั้งพุ่งล้มบ้าง ใช้มือบ้าง(ในฟุตบอลโลก2010) และการอัดผู้เล่นกองหลังที่คอยมาปั่นป่วนการทำสกอร์ของเขา แบบไม่เหมือนใคร ไม่เตะขา ไม่โดดถีบยอดอก แต่เด่นๆคือการกัด หรือBiteผู้เล่นนั่นเอง
การกัดของหลุยส์ ซัวเรสเท่าที่มีการบันทึกเอาไว้จริงๆจังๆนั้น พบว่าถึงตอนนี้ มีด้วยกัน3ครั้ง เป็นกัดกองกลางหนึ่งครั้ง คือ ออตมาน บัคคัล นักเตะพีเอสวี ไอล์ดโฮลเฟ่น(ขณะที่เขาเป็นศูนย์หน้าอาแจ็กส์)ในปี2010 โดนแบนยาว7นัด ก่อนที่สโมสรลิเวอร์พูลจะซื้อตัวมาเล่นในต้นปี2011
ครั้งที่สอง ในฤดูกาล2012-13 ในเกมระหว่างลิเวอร์พูลกับเชลซี หวยนั้นออกไปที่กองหลังชาวเซิร์บ บรานิสลาฟ อิวาโนวิช ซึ่งในตอนนั้นกรรมการไม่เห็นและมาลงโทษแบนยาว10นัดในภายหลัง(ทำให้ซัวเรสอยู่ไปจนจบเกมและยังอุส่าห์ทำประตูได้อีกในช่วงท้าย เสมอกัน2-2)
ก่อนที่เขาจะมาระเบิดฟอร์มเปรี้ยงปร้างในฤดูกาลถัดมา เป็นเจ้าของรางวัลดาวซัลโวพรีเมียร์ในท้ายสุด
และครั้งล่าสุด ในฟุตบอลโลก2014ที่บราซิลนี่เอง นัดชี้ชะตาหาทีมเข้ารอบ16ทีมสุดท้ายระหว่างอุรุกวัยทีมชาติเขากับทีมอิตาลี หวยนั้นไปออกที่กองหลังจอร์โจ้ คิเอลลินี่ ซึ่งหลังจากการกัดไปไม่กีี่นาที อุรุกวัยก็สามารถเขี่ยอิตาลีตกรอบได้ จากลูกเตะมุม และโหม่งเข้าไปโดยเดียโก โกดินเป็นลูกนำชัย แต่หลังจากนั้น ฟีฟ่านำเรื่องของซัวเรสมาสอบสวน ในที่สุดศูนย์หน้าจอมกัดคนนี้ก็โดนโทษแบนยาวอีก4เดือน ถูกปรับและห้ามยุ่งเกี่ยวกับฟุตบอลอีกเลยในระหว่างนี้
แต่ระหว่างนี้ หลุยส์ ซัวเรสก็ถูกสโมสรบาร์เซโลน่ามาซื้อตัวไปอีก เหมือนครั้นกับลิเวอร์พูลไม่มีผิด
นักจิตวิทยา พากันวิเคราะห์พฤติกรรมการกัดของซัวเรสไปหลายวิเคราะห์ รวมไปถึงอดีตนักเตะดังๆอย่างโอลิเวอร์ คานส์ เดียโก มาราโดน่าเป็นต้น บางทีก็ว่ามันอาจเป็นการระบายความเครียด กดดันของเขาในระหว่างเกมที่มัน"สำคัญ" ซึ่งนักเตะหลายคนเองก็เป็น นักจิตวิทยาบางท่านบอกว่า มันอาจมาจากพื้นฐานครอบครัวของเขาในวัยเด็กซึ่งบกพร่อง ทำให้เขาขาดความอบอุ่น (พ่อแม่ของเขาหย่าร้างกันตั้งแต่เด็ก) บ้างก็ว่าเขาเป็นโรคสมาธิสั้น ประมาณอยู่ไม่สุขงี้
หลุยส์ ซัวเรสมักทำช็อตมหัศจรรย์ๆให้แฟนเดอะ ค็อปได้อึ้งเสมอๆ แม้ว่าบางทีจะเหมือนโอเวอร์มากไปจนมีบ้างที่คนจะไม่ชอบในพฤติกรรมตุกติกของเขา แต่แฟนๆก็ชอบเขาหลายคนใช่ไหมล่ะครับ???แน่นอนว่า เขาเป็นศูนย์หน้าที่พึ่งพาได้ พลิกสถานการณ์เกมได้ และเชื่อว่าเคนนี่ ดัลกริช คงคิดว่าตนคิดถูกแล้วที่เขาให้สวมเบอร์7เบอร์ของเขาในอดีต
ก็เพราะว่า ตอนนี้ หลุยส์ ซัวเรสได้กลายเป็นตำนานอีกคนหนึ่งของลิเวอร์พูลไปแล้ว การันตีด้วยสถิติมากมายในซีซั่นที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของรางวัลดาวซัลโวและแอสซิสต์สูงสุด ได้รางวัลนักเตะพีเอฟเอของอังกฤษ และที่สำคัญรางวัลรองเท้าทองคำของยุโรป(ครองร่วมกับโรนัลโด้ของเรอัล มาดริดเป็นนักเตะลิเวอร์พูลคนที่สองต่อจากเอียน รัชที่ได้ในปี1983-84)
อันดับ | ชื่อ | สโมสร | ประตู[1] |
---|---|---|---|
1 | ![]() |
ลิเวอร์พูล | 31 |
2 | ![]() |
ลิเวอร์พูล | 21 |
3 | ![]() |
แมนเชสเตอร์ ซิตี | 20 |
4 | ![]() |
แมนเชสเตอร์ ซิตี | 17 |
![]() |
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด | ||
6 | ![]() |
สวอนซี ซิตี | 16 |
![]() |
แมนเชสเตอร์ ซิตี | ||
![]() |
อาร์เซนอล | ||
9 | ![]() |
เอฟเวอร์ตัน | 15 |
![]() |
เซาแทมป์ตัน |